พิสูจน์หลักฐานบนระบบคลาวด์
การพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ (Cloud forensics) หมายถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์หลักฐานดิจิทัลจากสภาพแวดล้อมของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการบันทึกข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) ที่มีการเข้าถึงผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ถึงเทคโนโลยีคลาวด์จะมีประโยชน์มากมาย เมื่อต้องดำเนินการสืบสวนด้านดิจิทัลบนคลาวด์ ยังก็มีความท้าทายและซับช้อนไม่เหมือนระบบอื่น ๆ
อุปสรรคและความท้าทายของการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ (Cloud Forensics & the Challenges)
ข้อควรสังเกตุและความท้าทายที่นักพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลมักพบในการสืบสวนบนระบบคลาวด์ได้แก่:
ตำแหน่งที่บันทึกข้อมูลอาจจะนอกเหนือขอบเขตอำนาจของศาล: หนึ่งในความท้าทายหลักสำหรับการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ คือการค้นหาตำแหน่งของข้อมูลและดูว่าอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจศาลหรือไม่ โดยทั่วไปผู้ให้บริการคลาวด์ จะจัดเก็บข้อมูลไว้หลายแห่ง ทำให้การตรวจสอบทำยาก ทั้งในด้านการระบุตำแหน่งที่แน่นอนของหลักฐาน ซึ่งข้อมูลอาจจะถูกจัดเก็บในหลายประเทศ รวมถึงอาจมีการบังคับใช้กรอบกฎหมายและกฎระเบียบที่แตกต่างกันของแต่ประเทศนั้นๆ ทำให้กระบวนการสืบสวนซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
การเข้ารหัสข้อมูลเพื่อความปลอดภัย :บริการคลาวด์ทั่วไปมักใช้เทคนิคการเข้ารหัสที่แน่นหนา เพื่อป้องกันข้อมูลของผู้ใช้งาน แม้ว่านี่จะเป็นประโยชน์ต่อความปลอดภัยของข้อมูล แต่ก็เป็นความท้าทายสำหรับผู้ตรวจสอบและการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ การถอดรหัสข้อมูลต้องใช้การเข้าถึงกุญแจการเข้ารหัส หรือ Encryption keys ซึ่งอาจถูกเก็บไว้โดยผู้ให้บริการหรือตัวผู้ใช้งานเอง และการที่จะได้รับหรือค้นหากุญแจการเข้ารหัส อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน ซึ่งก็อาจมีผลกระทบต่อการสืบสวนได้
ความไม่คงที่ของหลักฐาน เกิดขึ้นได้เนื่องจากเครื่องจำลอง: ที่ถูกสร้างในระบบคลาวด์ การทำงานของระบบอาจทำให้ข้อมูลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาหรือถูกลบอย่างสม่ำเสมอ ความไม่คงที่นี้ เป็นความท้าทายในการรักษาและรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ผู้สืบสวนต้องทำการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะถูกลบหรือถูกเขียนทับ
ปัญหาขาดมาตรฐาน: ผู้ให้บริการคลาวด์มักใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตน ซึ่งส่งผลให้ขาดมาตรฐานในด้านการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ ผู้ให้บริการแต่ละแห่งอาจมีกลไกการเข้ารหัสข้อมูล รูปแบบการบันทึกข้อมูล และการควบคุมการเข้าถึงที่แตกต่างกัน ทำให้การจัดเก็บและวิเคราะห์หลักฐานบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันนั้น เป็นความท้าทายของผู้ตรวจสอบ
ห่วงโซ่การคุ้มครองพยานหลักฐาน (CoC): การรักษาห่วงโซ่ของพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญในการสืบสวนด้านนิติวิทยาศาสต์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม สำหรับการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์ ห่วงโซ่ของพยานหลักฐานสามารถถูกทำลายได้ง่าย เนื่องจากต้องมีการมีส่วนร่วมและการเข้าถึงข้อมูลจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ใช้งาน และคนกลางต่างๆ ดังนั้นความสมบูรณ์และความถูกต้องของพยานหลักฐานจึงกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลบนคลาวด์
ติดต่อเราวันนี้ เพื่อให้เราช่วยเหลือในการแก้ปัญหาทางด้านดิจิทัลของคุณ